เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 09.09 น. ที่ห้องรับรองบุคคลทั่วไป CIP (Miracle Lounge) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นผู้แทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ร่วมประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและอัญเชิญธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณ อายุกว่า 2,000 ปีจากประเทศนอร์เวย์ ซึ่งมีบุคคลสำคัญ คณะสงฆ์ ประชาชนเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก โดยพิธีส่งมอบเริ่มเวลา 09.19 น. นายนิพิฏฐ์และนางคัทยา คริสทีนา โนร์ดการ์ด เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรนอร์เวย์ประจำประเทศไทย ถวายนมัสการธรรมเจดีย์ จากนั้นนางคัทยากล่าวถึงการค้นพบและกล่าวมอบธรรมเจดีย์มาประดิษฐานที่ประเทศไทย
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต้อนรับธรรมเจดีย์ ว่า นับเป็นวันมหามงคลและเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งของโลก ที่ได้รับมอบธรรมเจดีย์ พระคัมภีร์พุทธศาสนาโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ อายุว่า 2, 000 ปีมาประดิษฐานและจัดแสดง ณ อาคารพิพิธภัณฑ์ทางพุทธศาสนา พุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ไทย-นอร์เวย์ ซึ่งมีความสัมพันธ์กว่า 100 ปี นับแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเยือนนอร์เวย์ครั้งแรก
“การอัญเชิญธรรมเจดีย์มาไทยถือว่ามีความสำคัญยิ่งต่อพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่จะได้สักการะธรรมเจดีย์ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและจะได้ศึกษาเรื่องราวแห่งพระธรรมคำสั่งสอนจากนิทรรศการที่จะได้จัดให้มีขึ้นต่อไป” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
จากนั้นพระพรหมเมธี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และคณะผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ประธานฝ่ายสงฆ์นำคณะสงฆ์สวดเจริญพุทธมนต์ และนายนิพิฏฐ์ รับมอบธรรมเจดีย์จากนางคัทยา เพื่อถวายแด่พระธรรมสิทธินายก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เป็นผู้อัญเชิญธรรมเจดีย์เข้าสู่ขบวนแห่ ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จัดต้อนรับอย่างสมเกียรติ จากนั้นอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบกเดินทางสู่พุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยธรรมเจดีย์จะประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2554 โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชมและสักการบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล และเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา
ทั้งนี้ธรรมเจดีย์ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีและนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้เดินทางไปรับมอบจากสถาบันอนุรักษ์สเคอร์เยน มหาวิทยาลัยออสโล ประเทศนอร์เวย์ มาถึงในช่วงเช้าวันเดียวกันด้วย
นายนพรัตน์ กล่าวว่า ธรรมเจดีย์เป็นพระคัมภีร์พุทธศาสนาเก่าแก่ที่สุดในโลกถูกค้นพบก่อนสงครามจะเกิดขึ้น ในถ้ำบริเวณเทือกเขาบามิยัน ตั้งอยู่ห่างประมาณ 2 ก.ม. จากพระพุทธรูปหินบามิยันสูง 53 เมตร ที่ถูกทำลายในปี พ.ศ. 2544 ในอดีตดินแดนแถบนี้ชื่อว่าคันธารราฐ อยู่บนเส้นทางสายไหม เคยเจริญรุ่งเรืองด้วยพุทธศาสนา และปัจจุบันดินแดนแถบนี้เรียกว่าประเทศอัฟกานิสถาน ทั้งนี้สถาบันอนุรักษ์สเคอเยน ได้คัมภีร์โบราณชุดแรก ในปี พ.ศ. 2539 จากพ่อค้าของเก่าซัมฟ๊อก กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และได้วางแผนการขนย้ายคัมภีร์ทุกวิถีทาง ในช่วงปี พ.ศ. 2540 – 2543 (ในปีพ.ศ. 2544 ถ้ำแถบเทือกเขาบามิยันได้ถูกระเบิดทำลายจนหมดสิ้นรวมทั้งองค์หลวงพ่อบามิยันสูง 50 เมตร) ปัจจุบันสถาบัน ฯ สามารถอนุรักษ์คัมภีร์โบราณไว้ได้ประมาณ 5,000 ชิ้น ที่ยังเป็นชิ้นส่วนสมบูรณ์และแตกหักเล็กน้อย และส่วนที่เศษชิ้นเล็กๆ อีกประมาณ 8000 ชิ้น ทั้งหมดมีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 6 – 12 การจารึกทำไว้ในใบลาน เปลือกไม้ หนังสัตว์และแผ่นทองเหลือง นักโบราณคดีและภาษาศาสตร์นานาชาติใช้เวลา 12 ปี ทำการชำระคัมภีร์ดังกล่าวโดยสันนิษฐานสรุปว่า เป็นผลงานของพระอรหันต์ที่ได้จารึกพระธรรมวินัยเป็นตัวอักษร ในราวพุทธศตวรรษที่ 6 หรือประมาณร่วม 2,000 ปีล่วงมาแล้ว
บรรยาการ ณ อาคารพิพิธภัณฑ์ทางพุทธศาสนา พุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม
บทความจาก มติชนออนไลน์